สีทาบ้านมงคล บ้านไหนสีสวย สีดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

“สีทาบ้านมงคล” ค่อนข้างเป็นเรื่องที่สำคัญทีเดียวสำหรับเจ้าของบ้านและผู้ที่กำลังจะมีบ้านเป็นของตนเอง สาเหตุที่สีของบ้านเป็นเรื่องที่สำคัญก็เพราะว่ามันบ่งบอกได้ถึงหลายๆ อย่างเกี่ยวกับผู้ที่เป็นเจ้าของบ้าน ตั้งแต่นิสัย ความคิด และความเชื่อ นอกจากนี้แล้วสีของบ้านนั้นยังมีพลังงานและอิทธิพลบางอย่างที่ส่งผลต่อฮวงจุ้ยรวมถึงดวงชะตาของเจ้าของได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม บ้านไหนที่สีสวย สีดี ถึงมีชัยกว่าบ้านอื่นๆ ไปมากกว่าครึ่ง

 

“สีทาบ้านมงคล” ปี 2565 นี้ สีไหนดี เสริมดวงเรื่องใดบ้าง?

“สีทาบ้าน” ถือเป็นตัวช่วยสำคัญที่เข้ามาเติมสีสันและเสริมบรรยากาศให้บ้านของเราดูสวยงามน่าอยู่ยิ่งขึ้น ซึ่งสีแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติและมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งในเรื่องของความเชื่อก็ยังมีความเชื่อที่ว่า การเลือก สีทาบ้าน ให้ถูกโฉลกกับเจ้าของบ้าน นั้นจะทำให้คนในบ้านมีความสุข ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง นำพาแต่สิ่งดีๆ เข้ามาในครอบครัว พาโชคลาภ และความร่ำรวยให้กับคนในบ้าน อีกทั้งการเลือกสีบ้านยังส่งเสริมในเรื่องของหน้าที่การงาน และการเงิน ทำให้อยู่แล้วเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปด้วย

เลือกสีทาบ้านยังไง ให้ถูกฮวงจุ้ย?

ความเชื่อเรื่องสีตามหลักฮวงจุ้ย “สี” สามารถแทนค่าพลังงานในธาตุต่างๆ  คือ ธาตุทั้ง 5 ได้แก่ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุทอง ธาตุน้ำ ธาตุไม้  ซึ่งแต่ละธาตุก็มีพลังงานที่แตกต่างกันไป หลักการเลือกสีบ้านจึงแบ่งออกได้ ดังนี้

เลือกสีทาบ้านตามยุคสมัย

เช่น ยุคสมัยนี้นิยมเลือกสีทาบ้านแนวเอิร์ธโทน สีน้ำตาล ซึ่งสีโทนนี้เหมาะกับคนธาตุดิน เพราะเกี่ยวกับสร้างโอกาส จะทำให้รับพลังโชคดี ด้านการเงิน การงาน  ส่วนในตัวบ้านทาได้ทั้งสีน้ำตาลและสีขาว  เพราะเป็นสีแห่งศูนย์รวมพลังงานโชคดี

เลือกสีทาบ้านตามทิศทาง

ซึ่งแต่ละทิศก็แทนด้วยธาตุต่างๆ การเลือกสีทาบ้านภายนอกให้ใช้ประตูหน้าบ้านเป็นหลัก ส่วนภายในให้ใช้โทนอ่อนลงมา เพื่อให้รู้สึกโปร่ง สว่าง สบายตา ไม่อึดอัด ต่อไปเราไปดูสีมงคลประจำทิศกัน

  • ทิศเหนือ

สีทาภายนอก: ใช้สีโทนฟ้า สีเขียว  ได้แก่ สีเทา สีเขียว สีฟ้า

สีทาภายใน: ใช้โทนสีเขียวอ่อน

  • ทิศใต้ 

สีทาภายนอก: ใช้สีโทนแดงส้ม ได้แก่ สีครีม สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีเอิร์ธโทน

สีทาภายใน: ใช้โทนสีเขียวอ่อน

  • ทิศตะวันออก

สีทาภายนอก: โทนสีธรรมชาติ ได้แก่ สีเนื้อไม้ สีชมพู สีแดง สีเขียว สีเขียวอ่อน

สีทาภายใน: โทนสีฟ้าอ่อน

  • ทิศตะวันตก 

สีทาภายนอก: สีฟ้า สีขาว สีเงิน สีเทา

สีทาภายใน: สีฟ้าอ่อน

 

บ้าน คือ ชีวิตของเรา บ้าน คือ ตัวตนของเรา หากเราอยู่บ้านแล้วมีความสุข ความสบายใจ ก็จะส่งผลถึงเรื่องอื่นตามมาด้วย

สีทาบ้านมงคล ต่างๆ และความหมาย เจ้าของบ้านศึกษาไว้จะได้เลือกถูก!

สีแดง :

สีแห่งความมั่งคั่ง หรูหรา และความรัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเสริมโชคเรื่องความรัก ความสัมพันธ์ และการแต่งงาน

สีน้ำเงิน :

สีที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ ให้กับผู้อาศัย อีกทั้งยังเป็นการปรับสมดุลพลังหยิน-หยางให้สมดุล ทำให้บ้านสงบร่มเย็นและน่าอยู่ ใช้ได้ทั้งสีทาผนังภายในและภายนอก ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงรูปวาดต่างๆ ที่มีสีน้ำเงินเป็นองค์ประกอบหลัก เช่น ทะเล มหาสมุทร ท้องฟ้า ฯลฯ ก็สามารถนำไปตั้งได้เพื่อเสริมดวงเรื่องการเงิน

สีดำ :

ในทางฮวงจุ้ยจัดเป็นสีในกลุ่มธาตุน้ำ เหมาะสำหรับตกแต่งทางทิศเหนือของบ้าน จะช่วยเสริมในเรื่องของเสน่ห์ ความแข็งแรง ความมั่นคง รวมถึงปกป้องสิ่งชั่วร้าย แต่พึงระวัง ไม่ควรนำสีดำไปใช้กับทิศใต้ เพราะเป็นทิศของธาตุไฟนั่นเอง

สีเหลือง : 

อีกหนึ่งโทนสีที่จะช่วยดึงดูดพลังงานดี ๆ เข้ามาในบ้าน เหมาะสำหรับนำไปใช้ตกแต่งห้องครัว ห้องนั่งเล่น และห้องนอน แต่ทั้งนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแต่งบ้านอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการปลูกต้นไม้ที่มีดอกสีเหลืองในบ้านก็ใช้ได้เหมือนกัน

สีเขียว :

สีที่เป็นสัญลักษณ์ของธรรมชาติ ความสงบ ความหวัง และยังมีพลังในการบำบัดและเยียวยา ช่วยให้คนในบ้านรู้สึกผ่อนคลาย ลดความวิตกกังวล รวมถึงช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าไปพร้อมกัน เหมาะสำหรับตกแต่งในห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนอนเด็ก ห้องทำงาน เพราะเป็นห้องที่ต้องการความสงบและกระตุ้นความคิด

สีทอง : 

นอกจากจะเป็นสีที่ช่วยเพิ่มระดับความหรูหราให้กับบ้านของเราแล้ว ในทางฮวงจุ้ย สีทองยังเป็นสีนำโชคเรื่องการเงินและการงาน ที่จะช่วยนำความสำเร็จ ชัยชนะและโชคลาภมาให้ ไม่จำกัดว่าจะต้องใช้แต่งบ้านอย่างเดียว แต่สามารถสวมเครื่องประดับสีทองเพื่อเสริมความโชคดีได้ด้วยเหมือนกัน

สีทาบ้านมีกี่แบบ แต่ละแบบใช้อย่างไร?

เมื่อรู้หลักของฮวงจุ้ยสีทาบ้านพอเบื้องต้นแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้นั่นคือ เจ้าของบ้านต้องรู้หลักการเลือกสีเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของตัวเจ้าของบ้านเองด้วย

สีทาบ้านนั้นมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน แต่หลักๆ จะสามารถแบ่งออกได้เป็น 6 แบบ ดังนี้

  • เนื้อสีด้านแบบ Flat

รูปแบบของเนื้อสีทาภายในประเภทแรกคือ เนื้อสีด้านแบบ Flat หรือเนื้อสีที่จะให้ผิวสัมผัสแบบเรียบไม่มีเงา ไม่สะท้อนแสง ทำให้เหมาะที่จะใช้งานในบริเวณเพดาน ฝาผนัง หรือในพื้นที่ที่ไม่ได้มีการใช้งานมาก เพราะเนื้อสีเรียบนี้สามารถปิดข้อบกพร่อง ความไม่สมบูรณ์แบบต่างๆ ได้ดีนั่นเอง

  • เนื้อสีแบบกึ่งเงา หรือ Semi-Gloss

เนื้อสีลักษณะนี้จะมีความเงาเพียงเล็กน้อย เป็นประเภทสีที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการทาพอสมควร เพราะลักษณะสีจะสะท้อนแสงเมื่อแห้ง ดังนั้นหากเทคนิคการทาไม่ดี หรือบริเวณที่ทามีร่องรอย เหมาะสำหรับ ห้องน้ำ หรือ ห้องนอนเด็ก

  •  เนื้อสีแบบเปลือกไข่ หรือ Eggshell

สีแบบเปลือกไข่ หรือ Eggshell เป็นชนิดสีที่หม่น ไม่มันวาว เหมือนอย่างเปลือกไข่ มีความมันวาวกว่าสีแบบ Flat เล็กน้อย เป็นสีที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าสีแบบด้านเหมาะสำหรับบริเวณที่มีการจราจรมาก อย่าง ห้องครัว ห้องน้ำ และยังนิยมใช้ในออฟฟิศต่างๆ

  • เนื้อสีชนิด Satin

เนื้อสีแบบซาติน จะมีความมันเงากว่าพื้นผิวเปลือกไข่ แต่ไม่มันวาวเท่าสีชนิดกึ่งเงา ผิวสัมผัสที่จะได้คือพื้นผิวที่ดูอ่อนนุ่ม เป็นชนิดสีที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย ทำให้เหมาะทั้งสำหรับการทาสีภายใน และภายนอกทั้งยังเหมาะกับห้องที่ใช้ทำกิจกรรมสูงอย่าง ห้องเล่นเด็ก ห้องครัว ห้องรับประทานอาหาร ห้องซักผ้า ห้องน้ำ เป็นต้น

  • เนื้อสีด้านแบบ Matte

เนื้อสีด้านแบบ Matte จะให้ผลลัพธ์เป็นผิวสัมผัสที่คล้ายคลึงกับเนื้อสีด้านแบบ Flat แต่จะต่างกันตรงที่จะมีความลื่น ราบเรียบมากกว่า พร้อมกับคุณสมบัติสะท้อนแสงน้อย จึงทำให้เหมาะกับการทาสีบริเวณเพดาน เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องนอน และโถงทางเดิน ฯลฯ

  • เนื้อสีแบบมันเงา

เป็นประเภทสีที่มีความทนทานมากที่สุด และสะท้อนแสงมากที่สุดเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติของสีชนิดนี้ทำให้เหมาะที่จะใช้ในบริเวณที่ต้องใช้งานบ่อย อาทิ ใช้กับการทาขอบประตู หน้าต่าง รวมถึงห้องครัว และห้องน้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ยังสามารถทำความสะอาดได้ง่ายดาย จึงเหมาะกับห้องที่มีความเสี่ยงจะเลอะได้ง่าย

วิธีการเลือกสีทาบ้านให้เหมาะกับการใช้งาน

โดยเจ้าของบ้านต้องจำเป็นต้องพิจารณาหลักการทั้ง 3 อย่าง เพื่อให้การทาสีบ้านถูกต้องและเหมาะสมมากขึ้น

1. พื้นผิวที่ต้องการทา

ต้องรู้ก่อนว่าพื้นผิวที่ต้องการทาเป็นวัสดุชนิดใด เพราะสีแต่ละชนิดจะสามารถยึดเกาะได้ดีบนวัสดุที่แตกต่างกัน เมื่อเลือกชนิดของสีได้ตรงกับชนิดของพื้นผิว สีก็จะยึดเกาะได้ทนทานยิ่งขึ้น

2. พื้นที่ที่ต้องการทา

ดูว่าจะใช้ทาภายนอกหรือภายในอาคาร ซึ่งโดยทั่วไปพื้นที่ภายนอกต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่รุนแรงกว่าภายใน หากเราจะทาสีภายนอกอาคารก็ควรเลือกชนิดที่มีความทนทานเป็นพิเศษ หรือหากจะใช้ทาภายในก็ควรเลือกสีที่ปลอดภัยต่อสุขภาพของคนในบ้าน

3. รูปลักษณ์ที่ชื่นชอบ

สีแต่ละชนิด เมื่อทาออกมาแล้วจะให้รูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องความทึบของสี ความสดของสี และความเงางาม นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีนวัตกรรมสีชนิดใหม่ที่สามารถสร้างผิวสัมผัสให้เป็นลวดลายต่างๆ ได้อย่างอิสระตามใจเจ้าของบ้าน
ท้ายที่สุด สีทาบ้านมงคล ยังคงเป็นเรื่องที่ยึดเหนี่ยวของการตกแต่งบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะไม่เพียงแต่ตอบสนองต่อความเชื่อของเจ้าของบ้าน แต่ยังรวมไปถึงการซ่อมแซมบ้านในอนาคตด้วย การเลือกสีที่ดีตามฮวงจุ้ยจึงต้องมีเกณฑ์ของความรู้เรื่องสีมาตัดสินใจร่วมกันไป อย่างไรก็ดี เรื่องเหล่านี้คงไม่สำคัญ เท่าความเอาใจใส่ของเจ้าของบ้านว่าอยากให้ บ้าน ของตนเองนั้นมีความน่าอยู่มากเพียงใด เพราะตามที่กล่าวไปข้างต้นว่า ทุกๆ ส่วน ทุกๆ องค์ประกอบของสถานที่แห่งนี้ แสดงได้ถึงตัวตนของคนได้บ้านอย่างชัดเจน ดังนั้น ทุกๆ คนในบ้านจึงควรดูแลให้ดี เพื่อความสุขของทุกๆ คนด้วยนั่นเอง

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เสริมดวงให้เฮงด้วย เฟอร์นิเจอร์สีทอง สีโชคลาภ เรียกทรัพย์

แต่งบ้านด้วย โซฟาหลุยส์สีขาว มนต์เสน่ห์แห่งความเรียบหรูมีระดับ

เสริมดวงให้เฮงด้วย เฟอร์นิเจอร์สีทอง สีโชคลาภ เรียกทรัพย์

 

 

 


สอบถามเพิ่มเติมหรือรับโปรโมชั่นพิเศษ

ปุ่ม facebook ร่มไทรเฟอร์นิเจอร์

หากคุณกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์หลุยส์สวยๆ อยู่ ร่มไทรเฟอร์นิเจอร์ ยินดีให้คำปรึกษาครับ ไม่ว่าจะข้อเสนอดีๆจากที่ไหนมา “เรายินดีให้คุณมากกว่า”

  • ผ่อน 0 % นาน 10 เดือน
  • รับประกันสินค้านาน 3 ปีเต็ม
  • จัดส่ง พร้อมติดตั้งฟรีทั่วประเทศ
  • มีบริการวัดหน้างานถึงบ้านลูกค้า
  • มีสินค้าพร้อมส่งทันที

ที่ตั้ง : 81 ซอย ร่มไทร แขวง หลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

Follow us


บทความล่าสุดจากร่มไทรเฟอร์นิเจอร์