สำหรับใครที่ซื้อบ้านสำเร็จรูปมาแล้วอยากปรับฮวงจุ้ยบ้านให้ดึงดูดทรัพย์สินเงินทอง ความโชคดีในด้านต่าง ๆ รวมถึงเสริมดวงที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น วันนี้ร่มไทรเฟอร์นิเจอร์จะมาแนะนำหลักการปรับฮวงจุ้ยตามพื้นที่ต่าง ๆ ภายในบ้านว่าควรปรับอะไรเพื่อเสริมด้านไหนบ้าง มาอ่านกันครับ
ปรับฮวงจุ้ยบ้านเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
1. เปลี่ยนทิศประตูทางเข้าบ้าน
ประตูบ้านถือว่าเป็นทางผ่านให้เงินทองไหลเข้ามาภายในบ้าน หากคุณใช้ประตูแบบเปิดออกจากบ้าน ทางเราแนะนำให้เปลี่ยนเป็นประตูแบบเปิดเข้าหาบ้านเพื่อกระตุ้นให้พลังงานดี ๆ ไหลเวียนเข้ามาในบ้าน นอกจากนี้อย่าลืมทำความสะอาดประตูบ้านเป็นประจำเพื่อรักษาพลังงานดี ๆ ไว้
หากพบปัญหาบริเวณประตู เช่น สีลอก มีรอยถลอกที่ประตู แนะนำให้รีบซ่อมทันทีหรืออาจทาสีประตูใหม่ โดยสีเขียวจะช่วยในเรื่องการเงิน ส่วนสีแดงจะช่วยในเรื่องความอุดมสมบูรณ์ ฯลฯ ทาทับลงไปเพื่อกระตุ้นให้พลังงานไหลเวียนสะดวกขึ้น ทั้งนี้หากต้องการตกแต่งประตูบ้านให้ดึงดูดทรัพย์มากขึ้นด้วยการประดับโมไบล์(Mobile) แนะนำให้ตั้งห่างจากประตูสักหน่อย อยู่ในระยะที่โมบายจะไม่ทำให้ประตูเกิดรอยขีดข่วนได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ประตูบ้านมีตำหนิและเสียพลังงานในการดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาในบ้าน
หรือหากประตูหน้าบ้านและหลังบ้านตรงกัน ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วถือว่าไม่ดีมาก ๆ เนื่องจากพลังงานที่จะเข้ามาจากหน้าบ้านจะไหลออกไปยังหลังบ้านง่ายขึ้น ส่งผลให้การเงินติดขัด มีเรื่องให้ใช้จ่ายตลอด เก็บเงินไม่ได้ ทั้งนี้อาจแก้ด้วยม่านบังตาหรือโต๊ะกลมขนาดใหญ่กั้นกลางบ้าน (อาจไว้ในห้องนั่งเล่น) ก็ได้
นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนทิศประตูบ้านตามหลักฮวงจุ้ยโดยอิงจากปีนักษัตรทั้ง 12 นักษัตร ดังนี้
ชวด (หนู)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศเหนือ
ฉลู (วัว)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออก
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ขาล (เสือ)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้, ทิศเหนือ และทิศตะวันออกเฉียงใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
เถาะ (กระต่าย)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตก, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออกเฉียงใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันออก
มะโรง (งูใหญ่)
- ควรหันไปทางทิศใต้, ทิศตะวันตกเฉียงเหนือทิศ และตะวันออกเฉียงเหนือ
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
มะเส็ง (งูเล็ก)
- ควรหันไปทางทิศตะวันออก, ตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศตะวันตกเฉียงใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้
มะเมีย (ม้า)
- ควรหันไปทางทิศเหนือ, ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศใต้
มะแม (แพะ)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตก, ตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออกเฉียงใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
วอก (ลิง)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และทิศใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
ระกา (ไก่)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ, ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออก
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตก
จอ (สุนัข)
- ควรหันไปทางทิศเหนือ, ทิศตะวันตกเฉียงใต้ และทิศตะวันออกเฉียงใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
กุน (หมู)
- ควรหันไปทางทิศตะวันตก, ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และทิศตะวันออกเฉียงใต้
- ไม่ควรหันไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
2. ติดกระจกแปดเหลี่ยม
หากบ้านคุณตั้งอยู่บริเวณทางสามแยก ทางสามแพร่ง ทางโค้ง หรือหน้าบ้านมีฝั่งตรงข้ามที่มีสิ่งกีดขวางตั้งอยู่ รวมถึงมีสถานที่ที่มีคนตายตั้งอยู่ เช่น สุสาน โรงพยาบาล วัด ศาลเจ้า บ้านร้าง ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วจะแนะนำให้ติดกระจกแปดเหลี่ยม เพราะเป็นสัญลักษณ์ของการป้องกันสิ่งชั่วร้าย ป้องกันและหักเหพลังงานลบที่ส่องเข้ามาภายในบ้าน เปลี่ยนสิ่งเลวร้ายให้กลับกลายเป็นดีได้ ถือเป็นวิธีปรับฮวงจุ้ยบ้านที่ใครหลายคนนิยมใช้กัน
เวลาติดกระจกแปดเหลี่ยม เราขอแนะนำให้หากระดาษเงิน-ทอง มาเช็ดกระจก จากนั้นให้เผากระดาษที่เช็ดและอธิษฐานขอพรให้กระจกแปดเหลี่ยมปกป้องคุ้มครองผู้อยู่อาศัยในบ้าน นอกจากนี้อาจขอน้ำมนต์จากพระจีนมาพรมที่กระจกก็ได้เช่นกัน
ข้อห้ามในการติดกระจกแปดเหลี่ยม
- ไม่ควรติดกระจกแปดเหลี่ยมหากมีบ้านหลังตรงข้ามกับเรา เพราะผู้อยู่อาศัยในบ้านตรงข้ามจะรับสิ่งไม่ดีแทนเรา
- ห้ามติดภายในบ้าน ควรติดแค่นอกบ้านเท่านั้น
- หากปัญหาในพื้นที่นั้นไม่ร้ายแรง แนะนำให้แก้ฮวงจุ้ยด้วยวิธีอื่นแทน เช่น กระจกเว้า กระจกนูน หรือลูกแก้วคริสตัล
- หากพบลักษณะพิฆาตในบริเวณนั้นรุนแรง มีภูตผีปิศาจ แนะนำให้ใช้กระจกแปดเหลี่ยมที่มีเสือคาบดาบ
- ควรเลือกใช้กระจกให้เหมาะกับพื้นที่ หากมีลักษณะพิฆาตรุนแรงก็ควรใช้กระจกบานใหญ่ เพื่อสร้างความสมดุลภายในพื้นที่
3. จัดการขยะและต้นไม้หน้าบ้านให้เรียบร้อย
หลายคนอาจไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการปัญหาขยะหน้าบ้าน เพียงแค่นำขยะมาทิ้งรอให้พนักงานเก็บขยะมาจัดการก็จบ แต่ที่จริงแล้วไม่ควรนำขยะมาวางไว้บริเวณประตูบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าจะส่งผลกระทบให้ดึงดูดสิ่งไม่ดีให้แก่ผู้อยู่อาศัย เพราะจะกีดกันโชคลาภไม่ให้เข้ามา นอกจากนี้ยังส่งผลต่อสุขภาพผู้อยู่อาศัยในระยะยาวด้วย วิธีแก้ปัญหาคือนำขยะใส่ลงถุงดำผูกปากถุงให้มิดชิด ป้องกันกลิ่นอันไม่พึงประสงค์มากวนใจ และย้ายถังขยะไปไว้ริมรั้ว ไม่ให้ขวางทางเข้า-ออกบ้าน
ส่วนต้นไม้หน้าบ้าน ทางศาสตร์ฮวงจุ้ยเชื่อว่าเป็นพลังงานชีวิต หากปล่อยให้ต้นไม้ตายจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย ดังนั้นคุณควรดูแลต้นไม้ให้เจริญงอกงามต่อไป หากมีเศษใบไม้แห้งหล่นใต้ต้นมากให้รีบกวาดทำความสะอาดให้หมดไป หากต้นไม้ที่ตายเป็นแบบปลูกลงดิน แนะนำให้ดูฤกษ์ยามก่อนถอนรากเพื่อป้องกันความเสียหายต่อพลังที่อยู่บริเวณหน้าบ้าน นอกจากนี้ควรตัดกิ่งออก หากกิ่งไม้ไปขวางทางแสงสว่างจากธรรมชาติหรือจากหลอดไฟหน้าบ้านเพื่อให้เปิดรับพลังงานดี ๆ เข้ามาในบ้านนั่นเอง
4. เคลียร์พื้นที่ห้องรับแขกให้กว้าง
ห้องรับแขกที่ดีจะต้องตั้งอยู่บริเวณจุดทแยงมุมกับประตู หากพื้นที่ในห้องรับแขกค่อนข้างคับแคบ แนะนำให้ติดกระจกบานใหญ่บริเวณผนังมุมใดมุมหนึ่งของห้องที่สามารถมองเห็นง่ายเพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น เพราะการปล่อยให้ห้องรับแขกคับแคบเปรียบเสมือนความอับโชคที่คั่งค้างอยู่ในบ้าน ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตยากขึ้น
นอกจากนี้ควรเลือกให้หน้าต่างในห้องรับแขกหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นทิศมงคลสำหรับบ้านและมีแสงสว่างเล็ดลอดออกมาเพียงพอ ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกร้อนหรือหนาวเกินไป สำหรับใครที่อาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียม แนะนำให้จัดแบบแยกส่วนหน้า-หลังออกจากกัน โดยนำตู้หรือชั้นวางของมากั้น จัดส่วนหน้าเพื่อรับแขก ส่วนหลังเป็นห้องนอน ไม่ควรจัดห้องนอนอยู่ด้านหน้าเพราะตามหลักฮวงจุ้ยถือว่าเป็นการทำลายโชคลาภ
ที่สำคัญอย่าลืมทำความสะอาดและจัดระเบียบข้าวของภายในห้องเพื่อให้ห้องดูโล่งขึ้น ไม่ควรปล่อยให้ข้าวของรกเกะกะเวลาเดินเข้ามาในห้อง ทั้งนี้อาจนำรูปปั้นมงคลมาวางเสริมบารมีได้ด้วยเช่นกัน
5. แยกซิงค์น้ำและเตาไฟออกจากกัน
ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าเตาเป็นธาตุไฟและซิงค์น้ำเป็นธาตุน้ำ ธาตุไฟกับน้ำไม่ควรอยู่ใกล้กันเพราะเป็นธาตุปะทะกัน แต่หากคุณซื้อบ้านสำเร็จรูปแล้วพบว่าของทั้งสองอย่างนี้อยู่ใกล้กัน ให้ดูก่อนว่าระยะห่างของเตากับซิงค์มากน้อยแค่ไหน หากห่างมากกว่า 1 เมตรขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องย้ายของแต่อย่างใด แต่ถ้าอยู่ติดกันแนะนำให้ใช้ฉากสเตนเลสมากั้นตรงกลาง แต่ถ้าห้องครัวยังพอมีพื้นที่ แนะนำให้ใช้โต๊ะมาวางคั่นกลาง แต่ถ้าพื้นที่ไม่เพียงพอ แนะนำให้ย้ายซิงค์น้ำหรือเตาไฟออกจากกัน
6. ปรับทิศของห้องนอน
ห้องนอนที่ดีตามหลักฮวงจุ้ยจะต้องโปร่งโล่งสบาย ในส่วนของแสงแดดยามเช้าควรตั้งห้องนอนทางทิศตะวันออก หรือทิศเหนือ เพื่อให้ได้รับแสงที่พอเหมาะ ไม่ร้อนจนเกินไป หรือถ้าต้องการให้ห้องนอนมีอากาศถ่ายเทสะดวกแนะนำให้เลือกทิศตะวันตกเฉียงใต้และทิศใต้ และที่สำคัญควรเลือกห้องให้อยู่ตำแหน่งหลังสุดของบ้าน (หรือตำแหน่งประธาน) เพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากหน้าบ้านนั่นเอง
ทั้งนี้ไม่ควรเลือกห้องนอนติดกับห้องครัว เพราะอาจเกิดกลิ่น, เสียง และความร้อนที่ไม่พึงประสงค์ต่อผู้ที่อยู่ในห้องนอน ตามหลักฮวงจุ้ยเชื่อว่าหากคู่รักที่อยู่อาศัยในห้องนอนใกล้ห้องครัวอาจเกิดปากเสียงกันบ่อยครั้ง ป่วยง่ายขึ้นด้วย
7. ใช้สีเสริมทรัพย์
การเลือกสีควรเลือกตามเจ้าของบ้านเป็นหลัก โดยสีที่เลือกจะช่วยเสริมดวงแตกต่างกันไป ดังนี้
- สีขาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมการงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์
- สีแดงและสีชมพู เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมความมั่นคงในชีวิต มีคนรักใคร่เมตตา
- สีเหลือง สีเบจ สีทอง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมเรื่องการศึกษาให้ประสบความสำเร็จ
- สีเขียว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมดวงการงานการเงิน สุขภาพแข็งแรง ชีวิตเจริญเติบโตไปในทางที่ดี
- สีฟ้าและสีม่วง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมด้านโอกาสและความมั่งคั่ง
- สีน้ำตาล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมให้คนในครอบครัวมีสุขภาพที่แข็งแรง
- สีหม่น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมรากฐานครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น ชีวิตครอบครัวราบรื่น
8. เพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน
จริงอยู่ว่าการปลูกต้นไม้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผู้อยู่อาศัย แต่สำหรับใครที่ต้องการปลูกเพื่อเสริมดวงด้านต่าง ๆ คุณควรศึกษาข้อมูลของต้นไม้ก่อนว่าเหมาะกับการปลูกในบ้านและเสริมดวงด้านไหนบ้าง เนื่องจากต้นไม้บางต้นไม่เหมาะกับบุคคลบางประเภท แทนที่จะได้ปรับฮวงจุ้ยบ้านกลับกลายเป็นดึงดูดโชคร้ายเข้ามาแทน เช่น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและความดันโลหิต ไม่เหมาะกับต้นยี่โถที่มีเปลือกและรากที่มีพิษ ทางที่ดีควรเลือกปลูกต้นไม้ที่มีขนาดและทิศที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการจะปลูก ดังนี้
- ทิศเหนือ (ทิศน้ำ) ได้แก่ ต้นชวนชม, ต้นว่านเศรษฐีเรือนนอก, ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์
- ทิศตะวันตก ได้แก่ ต้นกัลปพฤกษ์, ต้นพลูด่าง, ต้นมะขาม
- ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ได้แก่ ต้นส้ม, ต้นโมก, ต้นมะพูด
- ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ ต้นกัลปพฤกษ์, ต้นขนุน, ต้นพิกุล
- ทิศตะวันออก ได้แก่ ต้นไผ่, ต้นปีบ, ต้นทับทิม
- ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ต้นมะลิ, ต้นวาสนา, ต้นมะตูม
- ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ต้นโป๊ยเซียน, ต้นสารภี, ต้นยอ
- ทิศใต้ ได้แก่ ต้นตะโกนา, ต้นมะม่วง, ต้นหว้า
9. ดูแลห้องน้ำตามหลักฮวงจุ้ย
ห้องน้ำถือว่าเป็นห้องที่ผู้อยู่อาศัยใช้งานร่วมกันบ่อย ดังนั้นการทำความสะอาดห้องน้ำเป็นประจำจึงเป็นสิ่งจำเป็น ถ้าหากปล่อยให้ห้องน้ำมีน้ำขังนาน จะทำให้เกิดความชื้นที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราในระยะยาว ซึ่งโยงเข้ากับหลักฮวงจุ้ยที่ว่าการปล่อยให้มีน้ำขังในห้องน้ำนาน ๆ จะส่งผลให้หน้าที่การงาน,การเงินและความรักไม่ราบรื่นเท่าที่ควร นอกจากนี้การเพิ่มแสงสว่างอย่างเพียงพอและเลือกต้นไม้ดูดความชื้นในห้องน้ำ เช่น ลิ้นมังกร, เฟิร์น, พลูด่าง, ว่างหางจระเข้, กวักมรกต ฯลฯ จะช่วยไล่ความชื้นในห้องน้ำได้ดี แถมยังเสริมฮวงจุ้ยให้ดึงดูดทรัพย์ และที่สำคัญอย่าลืมรักษาสุขอนามัยในการใช้ห้องน้ำด้วยการปิดฝาชักโครกทุกครั้งหลังใช้งาน เพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายและป้องกันไม่ให้โชคร้ายออกมาจากชักโครกด้วยนะครับ
สอบถามเพิ่มเติมหรือรับโปรโมชั่นพิเศษ
หากคุณกำลังมองหาเฟอร์นิเจอร์หลุยส์สวยๆ อยู่ ร่มไทรเฟอร์นิเจอร์ ยินดีให้คำปรึกษาครับ ไม่ว่าจะข้อเสนอดีๆจากที่ไหนมา “เรายินดีให้คุณมากกว่า”
ที่ตั้ง : 81 ซอย ร่มไทร แขวง หลักสอง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร
Follow us
บทความล่าสุดจากร่มไทรเฟอร์นิเจอร์
โต๊ะอาหารหลุยส์ สีทอง ดีไซน์สวย พร้อมใช้ แถมเสริมดวงให้เจ้าของบ้าน
ตู้เสื้อผ้าหลุยส์ 5 วิธีเลือกตู้เสื้อผ้าแบบฝรั่งเศสให้เหมาะกับตัวคุณ
โซฟาหลุยส์ Charlemagen กับ 5 เหตุผลว่าทำไมจึงเป็นโซฟาตัวท็อปจากร่มไทร